วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559

ซื้อ ตู้สาขาโทรศัพท์ ให้เหมาะสมทั้งขนาดและการใช้งาน


  • กำหนดคุณสมบัติของตู้สาขาที่ต้องการใช้
    ขนาดของสายนอกธรรมดา สายนอก IP , ISDN สายในธรรมดา เครื่องดิจิตอล  เครื่องไอพี กำหนดเป็นสองค่า คือปริมาณที่ใช้ในปัจจุบัน และโอกาสที่จะขยายเพิ่มในอนาคต ขนาดสูงสุดของ ตู้สาขาโทรศัพท์ มีผลต่อราคาและประสิทธิภาพ ตู้สาขาโทรศัพท์ ขนาดเล็กไม่สามารถทำ Function บางอย่างได้ แต่ราคาถูกกว่าตู้สาขาขนาดใหญ่
    คุณสมบัติต่างๆและประสิทธิภาพ ยิ่งต้องการความสามารถของ ตู้สาขาโทรศัพท์ มากเท่าไร ก็ยิ่งต้องใช้ ตู้สาขาโทรศัพท์ ขนาดใหญ่ ราคาก็สูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นควรกำหนดความต้องการของ ตู้สาขาโทรศัพท์ ให้เหมาะสมกับองค์กร ประสิทธิภาพเช่น IP , ISDN , PHS , ACD , Call Center , LCR , SMDR บางอย่างอาจไม่จำเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วง โดยมาก ตู้สาขาโทรศัพท์ ต้องมีอุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อให้ครบตามความต้องการ เช่น Billing , Auto Attendant ,VoiceMail , Call logger , IVR อุปกรณ์ต่อพ่วงเหล่านี้บางอย่างแพงกว่า ตู้สาขาโทรศัพท์ เสียอีก ดังนั้นควรศึกษาแต่ละชนิดให้ดี ซึ่งมีในหัวข้ออื่นของ Web นี้
  • เลือกยี่ห้อของ ตู้สาขาโทรศัพท์ ที่ไว้วางใจได้
    แนะนำให้สอบถามจากผู้ที่เคยใช้ตู้สาขายี่ห้อนั้นๆ เหตุว่าเคยมี ตู้สาขาโทรศัพท์ หลายๆยี่ห้อเข้ามาขายในประเทศไทยด้วยราคาที่ถูกกว่ายี่ห้ออื่น และมีการโฆษณาว่าคุณภาพไม่แพ้ยี่ห้อชั้นนำที่อยู่ในตลาด แต่เพียงไม่นาน ยี่ห้อที่ว่าก็พับฐานกลับประเทศไป ลอยแพลูกค้าที่หลงเชื่อซื้อไปใช้ และยังคงมี ตู้สาขาโทรศัพท์ ยี่ห้อใหม่พยายามเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา ใครที่หลงซื้อไปก็แย่หน่อย ดังนั้นแนะนำว่าเลือกยี่ห้อที่มีใช้กันแพร่หลายในท้องตลาด อย่าเลือกยี่ห้อแปลกๆที่ไม่ค่อยมีใครใช้ จะช้ำใจภายหลัง
  • ค่าซ่อมหลังหมดประกัน
    มีลูกค้าหลายรายต้องเปลี่ยน ตู้สาขาโทรศัพท์ ใหม่เมื่อมีอุปกรณ์เสียหลังหมดประกัน เนื่องจากค่าซ่อมแพงมาก บางทีอาจไม่มีการซ่อมอุปกรณ์ถ้าเสียต้องซื้อของใหม่ ดังนั้นก่อนที่จะซื้อ ตู้สาขาโทรศัพท์ ควรตรวจสอบราคาซ่อมก่อน

  • ค้นหาตัวแทนจำหน่าย
    จากสื่อโฆษณาต่างๆ
    สมุดหน้าเหลือง , หนังสือพิมพ์ , Website , Facebook  ( Bug 1113 เคยฮิต )
    จากบริษัทเจ้าของผู้ผลิตตู้สาขาโทรศัพท์ยี่ห้อนั้นๆ รับรองว่ารายชื่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้ไม่ผิดหวังอย่าแน่นอน เจ้าของสินค้าไม่กล้าเสี่ยงแนะนำตัวแทนจำหน่ายที่ไร้คุณภาพให้ลูกค้า
    สอบถามจากผู้ที่เคยใช้
    ถามผู้ที่เคยใช้บริการจากตัวแทนจำหน่ายตู้สาขา วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้ผลดี จะได้ทราบถึงประสิทธิภาพของตู้สาขา และผู้ให้บริการ
  • คัดกรองตัวแทนจำหน่าย
    เลือกตัวแทนจำหน่ายที่เป็นผู้ผลิตด้รับการหรือแต่งตั้ง เพื่อจะได้รับการติดตั้งตู้สาขาโทรศัพท์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด บ่อยครั้งที่ลูกค้าซื้อตู้สาขาจากบริษัทที่ไม่มีความชำนาญ ทำให้ไม่สามารถใช้ Function ของ PBX ได้เต็มที่ เมื่อตู้สาขาเสียก็ไม่สามารถหามาเปลี่ยนได้อย่างทันท่วงทีตัวแทนจำหน่ายที่ขายสินค้าหลายๆยี่ห้อ เชื่อเถอะว่าผู้ค้าเหล่านั้น ไม่มีความชำนาญในทุกๆผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายถ้าต้องการซื้อ PBX ขนาดเล็กไม่เกิน 16 สายภายในก็ไม่น่าจะมีปัญหา ซื้อที่ไหนการติดตั้งคงไม่ต่างกันนัก แต่ถ้าสายภายในเกินกว่านั้น ควรซื้อตู้สาขาโทรศัพท์จากบริษัทที่จัดจำหน่ายเฉพาะยี่ห้อ จะได้ทีมงานติดตั้งที่มีคุณภาพ แล้วตู้สาขาจะอยู่กับคุณไปอีกแสนนาน
    บริการหลังการขาย เป็นสิ่งจำเป็นตรวจสอบผู้จำหน่ายถึงบริการหลังการขาย ตู้สาขารุ่นเดียวกันอาจราคาต่างกันเนื่องจากผู้ให้บริการจะบวกค่าบริการหลังการขาเข้าไปด้วย บางครั้งการซื้อตู้สาขาที่ราคาถูกมากๆอาจไม่ใช่ผลดีในอนาคตค่าบริการหลังหมดประกัน ระดับของค่าบริการแตกต่างกันตามขนาดขององค์กรผู้ให้บริการ ยิ่งบริษัทใหญ่เท่าไรค่าบริการก็แพงเท่านั้น และช่างที่ให้บริการก็มีประสิทธิภาพตามขนาดของบริษัท ผู้ซื้อควรเลือกผู้ขายให้เหมาะกับ ตู้สาขาโทรศัพท์ศูนย์ซ่อมก็สำคัญ บางครั้งอุปกรณ์เสียเพียงเล็กน้อย ถ้าผู้แทนจำหน่ายไม่มีศูนย์ซ่อมอาจให้ลูกค้าซื้อใหม่ ทำให้ค่าบำรุงรักษาในปีต่อๆไปบานปลาย

บทความโดย
อิศเรส อินทแสน
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม เลขที่ ภฟก. 11456
isares@isacengineering.com
Line ID : isacengineering
เป็นตัวแทนจำหน่าย IP PBX NEC ง่ายนิดเดีียว โทรหาเรา 08 8941 2499 หรือส่งเบอร์มาเดี๋ยวเราโทรกลับ

อ่านคู่สีของสายโทรศัพท์ให้แตกฉาน

สายโทรศัพท์เป็นสาย ที่ค่อนข้างยุ่งยากในการนับคู่สี ก็เนื่องด้วยโทรศัพท์ 1 หมายเลขจะใช้ สาย 1 คู่เป็นอย่างน้อย ที่ต้องบอกว่าเป็นอย่างน้อยเพราะว่า มีเครื่องโทรศัพท์ บางชนิดต้องใช้สายมากกว่า 1 คู่ เช่นเครื่องโทรศัพท์จำพวก Keytelephone ดังนั้นถ้ามีโทรศัพท์ 100 เครื่องก็ต้องใช้สาย 100 คู่ ทีนี้แหละยุ่งเลย จะนับกันอย่างไรเริ่มที่ไหนก่อน ถ้าใครยังไม่มีความรู้ด้านนี้เลย อาจคิดว่ายากแน่ๆ แต่ถ้าอ่านหน้านี้จบ รับรองจะต้องบอกว่า การนับคู่สายโทรศัพท์ง่ายนิดเดียว ผมขอพูดถึงการทำงานเกี่ยวกับการจ่ายสัญญาณโทรศัพท์สักนิดก่อน การจ่ายสัญญาณโทรศัพท์จะจ่ายสัญญาณจากต้นทางไปยังปลายทางผ่านสายโทรศัพท์ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าการออกแบบขนาดของสายว่าเป็นขนาดกี่คู่สาย โดยการจ่ายสัญญาณ ทางต้นทางต้องมีคู่สีที่ตรงกับทางปลายทาง นับเป็นลำดับที่ซึ่งจะเทียบกับคู่สี
สายโทรศัพท์ที่มีใช้กันทั่วไปในปัจจุบันมีอยู่ 2 ชนิด
1. สายมาตรฐาน
2.สายลายตุ๊กแก

สายมาตรฐานเป็นสายโทรศัพท์ชนิดที่ใช้กันมากที่สุด ใช้ในการเดินสายนอกและใน รวมทั้งใต้ดิน ตามเสาไฟฟ้าที่มีสายโทรศัพท์ห้อยอยู่ก็เป็นสายชนิดนี้ โดยแบ่งเป็นแม่สีและลูกสีดังนี้ 

แม่สีคือสี 1. ขาว 2.แดง 3.ดำ 4.เหลือง 5. ม่วงลูกสีคือสี 1.น้ำเงิน 2.ส้ม 3.เขียว 4.น้ำตาล 5.เทา


ตารางคู่สี 
รูปแสดงสายโทรศัพท์ขนาด 25 คู่สายสายชนิดนี้มีการจัดเรียงกันแบบใช้หนึ่งสีต่อหนึ่งเส้นโดย นับรวมกันเป็นคู่ๆ มีการกำหนดแม่สีและลูกสี แม่สี 1 สีจะมีลูกสีอยู่ 5 สี เรียงลำดับจากคู่ที่ 1. ขาว-น้ำเงิน 2. ขาว-ส้ม 3.ขาว-เขียว 4.ขาว-น้ำตาล……25.ม่วง-เทา 
ตัวอย่างเช่น
ลำดับของสายคู่ที่ 16 แม่สีคือสีเหลือง ลูกสีคือสีน้ำเงินดังนั้นคู่สีคือ สี เหลือง-น้ำเงิน
ลำดับของสายคู่ที่ 10 แม่สีคือสีแดง ลูกสีคือสีเทาดังนั้นคู่สีคือสี แดง-เทา

จากรูปด้านบนจะเห็นได้ว่าตารางสามารถเรียงคู่สีได้ทั้งหมดแค่ 25 คู่ 


ถ้าสายโทรศัพท์เกินกว่านี้จะมี ริบบิ้น พันแต่ละมัดไว้ โดยความหมายของแต่ละสีของริบบิ้นคือลำดับของมัดคู่สี
ตารางสีแสดงริบบิ้นที่ใช้พันมัดสายโทรศัพท์

ปแสดงสายโทรศัพท์ขนาด 100 คู่สาย
จากตารางจะมีริบบิ้นคู่สีต่างๆ จะแทน คู่สาย ขนาด 25 คู่ถ้ามีสายจำนวนมากขึ้น ริบบิ้นที่พัน และมัดสายก็จะเพิ่มขึ้น ตามจำนวนของคู่สายที่เพิ่มขึ้น โดยริบบิ้นจะมีสีตามคู่สีโทรศัพท์ มัดที่ 1 ริบบิ้นสี ขาว-น้ำเงิน ริบบิ้นเส้นสุดท้ายจะเป็นสี ม่วง-น้ำตาล รวมแล้วจะได้สายทั้งหมด = 25×24= 600 
คู่สาย


ตัวอย่างเช่น
สายขนาด 150 คู่ จะมีสายโทรศัพท์ทั้งหมด 6 มัด ตั้งแต่ ขาว-น้ำเงิน ถึง แดง-น้ำเงิน
สายขนาด 500 คู่ จะมีสายโทรศัพท์ทั้งหมด 20 มัด ตั้งแต่ ขาว-น้ำเงิน ถีง เหลือง-เทา
คู่สายที่ 267 คือริบบิ้นสี ดำ-น้ำเงิน คู่สี เหลือง-ส้ม
ถ้าสายเกินกว่า 600 คู่ จะเป็นยังไง ก็เหมือนเดิมครับ จะมีริบบิ้นมาพันรอบทุกๆ 600 คู่สาย แต่คราวนี้จะเป็นสีเดียว โดยเรียงดังนี้ 1.ขาว 2.แดง 3.ดำ 4.เหลือง 5.ม่วง ทำให้มีคู่สายได้ทังหมด = 25x24x5 = 3,000 คู่สาย

สายลายตุ๊กแก
เป็นสายอีกชนิดหนึ่งที่ยังพอมีให้เห็นกันในปัจจุบัน ส่วนมากถ้าจะใช้ต้องสั่งโรงงานผลิตไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปเหมือนกับชนิดแรก ข้อดีของสายชนิดนี้ก็คือไม่ต้องกลัวว่าสีจะแตกคู่ เนื่องด้วยลายบนสายบอกถีงลำดับของคู่สาย ข้อเสียก็คือไล่คู่สียากกว่าชนิดแรก
รูปแสดงสายลาย จุดต่างๆของสายโทรศัพท์ลายตุ๊กแก

สีของสายที่ใช้เรียงดังนี้ 1.ฟ้า 2.ชมพู 3.เขียว 4.ส้ม 5.เทา
ลายที่ใช้คือ 1 จุดสั้น 2 จุดสั้น 3 จุดสั้น 4 จุดสั้น หลายจุดสั้น 1 จุดยาว 2 จุดยาว 3 จุดยาว 4จุดยาว หลายจุดยาว ( จุด สีดำ และ สีแดง)

รูปแสดงสายโทรศัพท์ลายตุ๊กแก ขนาด 32 คู่สาย
ตัวอย่างเช่น
สายคู่ที่ 12 คือ สีชมพู 3 จุดสั้น
สายคู่ที่ 39 คือ สีส้ม 3 จุดยาว


บทความโดย
อิศเรส อินทแสน
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม เลขที่ ภฟก. 11456
isares@isacengineering.com
Line ID : isacengineering
เป็นตัวแทนจำหน่าย IP PBX NEC ง่ายนิดเดีียว โทรหาเรา 08 8941 2499 หรือส่งเบอร์มาเดี๋ยวเราโทรกลับ

IP PBX คิดให้ดีก่อนใช้

IP PBX คิดให้ดีก่อนใช้            
หลังจากที่เราได้ติดตั้งตู้สาขามามากกว่า 1000 ระบบ ทั้ง PBX และ IP PBX พบว่าความต้องการของธุรกิจระดับ SME ในประเทศไทยส่วนมากยังคงใช้โทรศัพท์ด้วยโทรศัพท์ ไม่ได้ต้องการเทคโนโลยี่ที่ดีเลิ


  1. สถานที่ติดตั้ง ต้องอยู่ในตำแหน่งที่ อุณหภูมิไม่สูง ความชื้นไม่มาก อาจต้องเปิดแอร์ 
  2. เจ้าหน้าที่ดูแล ต้องมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี 
  3. คุณภาพเสียงที่ไม่มีทางดีเท่า PBX เนื่องจากระบบการส่งเสียงผ่าน IP ยังไม่ดีเท่าที่ควร 
  4. ต้องเปิดไฟฟ้าตลอดเวลา PC , Switch , HUB , IP Phone 
  5. อายุการใช้งานที่ไม่แน่นอน อย่างเก่งก็ 5 ปี ขณะที่ PBX ใช้ได้ถึง 20 ปี 
  6. ความเป็นส่วนตัวที่ถูกรุกรานจากทั่วสารทิศ ต้องระวัง Hacker 
  7. โทรศัพท์ผ่านเครือข่ายสาธารณะ ยังไม่ดี